สตูล…สองสามี-ภรรยาหัวใส เปลี่ยนสวนปาล์มรกร้าง สร้างสวนน้ำธรรมชาติ ขึ้นเขาชมจุดชมวิว ลอดช่องเขาพิงกัน เซลฟี่กับผาทองคำ เดินชมเส้นทาง ธรรมชาติ ต้นลำแพนใหญ่ยักษ์กว่า200ปี @ที่นี่..น้ำหรา

 สตูล…สองสามี-ภรรยาหัวใส เปลี่ยนสวนปาล์มรกร้าง สร้างสวนน้ำธรรมชาติ ขึ้นเขาชมจุดชมวิว ลอดช่องเขาพิงกัน เซลฟี่กับผาทองคำ เดินชมเส้นทาง ธรรมชาติ ต้นลำแพนใหญ่ยักษ์กว่า200ปี @ที่นี่..น้ำหรา

…………………………………………………………………………….

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเดือนมกราคม จนถึงปลายเดือนเมษายน ในพื้นที่จ.สตูลเริ่มเข้าสู่ฤดูแล้ง อากาศร้อน ทำให้ชาวบ้านหรือนักท่องเที่ยวทั่วไปต้องมองหาสถานที่ที่ร่มเย็น หรือแหล่งน้ำเพื่อพาครอบครัวพักผ่อน

 เช่นเดียวกับที่นี่ สถานที่พักผ่อน ท่องเที่ยวที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ..ที่นี่น้ำหรา..เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่มรื่นในเนื้อที่9ไร่ ประกอบไปด้วย สวนน้ำธรรมชาติ ที่กั้นลำห้วยน้ำไหลเพื่อไว้เป็นที่เล่นน้ำคลายความร้อนของนักท่องเที่ยว โดยน้ำที่ไหลจากลำคลองลงมาจากภูเขา โอบล้อมด้วยซุ้มไม้ไผ่ ทำให้น้ำเย็นชื่นใจเมื่อได้ลงไปสัมผัส 

  ต่อด้วยเดินเท้าปีนป่ายภูเขาระยะทางสั้นๆ ไม่ชันจนเกินไป เพื่อขึ้นไปชมจุดชมวิวบนยอดเขา แนะนำให้ขึ้นเขาช่วงเช้าเพื่อดูหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นจะสวยงามมาก 

ลงมาผ่านเส้นทางเขาพิงกัน เป็นช่องเขาเล็กๆที่มีผาสองฝั่ง อีกฝั่งมีแสงประกายสีทองที่เรียกว่าผาทองคำ เกิดจากแสงแดดส่องผ่านกระทบพื้นแล้วสะท้อนแสงไปกระทบหน้าผาเป็นแสงสีทองสวยงาม นักท่องเที่ยวชื่นชอบ ถ่ายภาพออกมาได้สวย

 เดินออกจากเขาพิงกันชมปากถ้ำที่มีลักษณะรูปร่างหลายรูปแบบแล้วแต่ใครจะเปรียบเทียบ บางคนมองเหมือนหัวพญานาค เดินทางข้ามสะพานไม่ไผ่ชมสวนไผ่ตงเนื้อที่2ไร่ที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ แล้วออกกลับมาแวะถ่ายรูปกับต้นลำแพนยักษ์ที่มีขนาดประมาณ7คนโอบ อายุกว่า200ปี แล้ววนกลับมายังจุดเดิมเพื่อดื่มน้ำ ใช้เวลาในการเที่ยวชมโดยรอบไม่เกิน1ชั่วโมงครึ่ง ต่อจากนั้นใครจะลงเล่นน้ำก็ไม่ว่ากัน ใครหิวก็มีส้มตำ ไก่ย่างราคาบ้านๆ จานละ30บาท หรือ20บาทก็ได้ ไก่ย่าง ลูกชิ้นไม้ละ5-10บาท เรียกได้ว่ามีเงินแค่50บาทสามารถมาเที่ยวที่นี่ได้แถมยังอิ่มได้อีกด้วย

 โดยสถานที่นี้เป็นที่ของนางสาว ภมร แก้วพะวง อายุ 42ปี ชาวบ้านบ้านน้ำหรา ต.ทุ้งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล

นางสาว ภมรเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า แนวคิดริเริ่มก่อนจะมาเป็นที่นี่น้ำหรา เกิดจากที่ในช่วงฤดูแล้งของทุกปีชาวบ้านในพื้นที่จะขาดแคลนน้ำเป็นอย่างมากเพราะแหลงน้ำที่ผลิตน้ำประปาให้ชาวบ้านได้ใช้แห้งขอด ทำให้ชาวบ้านแห่มาอาบน้ำในลำธารแห่งนี้ที่มีพื้นที่เป็นสวนปาล์มของตน จึงมีแนวคิดใช้กระสอบทรายกั้นน้ำไว้เหมือนฝายเล็กๆ จนมีชาวบ้านทั้งในหมู่บ้านและพื้นที่ใกล้เคียงแห่มาอาบน้ำกันมากมายต่อวัน จึงเริ่มสำรวจเห็นว่า ในพื้นที่สวนปาล์ม9ไร่แห่งนี้ มีหลายอย่างที่น่าสนใจ และน่าท่องเที่ยว ในช่วงเดือนธันวาคมปลายปี62จึงเปิดเป็นจุดท่องเที่ยว โดยไม่คิดค่าบริการไดๆทั้งสิ้น เล่นน้ำฟรี น้ำดื่มฟรี แต่มีส้มตำไก่ย่างขายในราคาย่อมเยา ต่อมาช่วงต้นปี63เกิดปัญหาโควิด19ระบาด จึงได้ปิดตัวลง แต่พอมาช่วงเดือนมกราคม64สถานการณ์โรคระบาดโควิด19ลดลง บวกกับเข้าช่วงฤดูร้อนพอดี ตนกับสามีจึงเปิดที่นี่ขึ้นมาใหม่อีกรอบ จนได้นับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี 

  นางภมร กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้ รายได้ที่ตนได้รับจากการเปิดการท่องเที่ยวแห่งนี้ ได้มาแค่จากการขายส้มตำ ไก่ย่าง ไอติม และขนมต่างๆ การเข้ามาพักหรือเที่ยวชม ไม่ได้คิดค่าบริการแต่อย่างได รายได้ที่ได้รับอยู่เฉลี่ยยวันจันทร์-ศุกร์อยู่ที่600-800บาท วันหยุด หรือเสาร์-อาทิตย์ 1000-1200บาท เรียกว่าสร้างรายได้ให้ได้อย่างดีงามสวนผลปาล์มน้ำมัน ก็ยังคงเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เหมือนเดิม เรียกได้ว่าเนื้อที่9ไร่ สมารถสร้างรายได้ถึงสองเท่า 

 

และหลังจากนี้ การเดินชมธรรมชาติปีนเขาดูจุดชมวิว ชมผาทองคำ ต้นไม้ยักษ์ ทางตนจะขอเก็บค่าบริการคนละแค่10บาท เพื่อมอบให้กับสตาร์ฟที่คอยดูความปลอดภัยในช่วงเดินทางเพราะบางที่ต้องปีนป่าย แต่ค่าพักผ่อนเล่นน้ำยังคงเล่นได้ฟรีเหมือนเดิม

 สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากเดินทางมาพักผ่อน ที่นี่น้ำหรา ตั้งอยู่ในหมู่ที่6 ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล (บ้านน้ำหรา) หรือสอบถามเส้นทางได้ที่ 089-3293634 คุณ ภมร แก้วพะวง

……………………………………………………………………..

ปิยะชาติ ศรีภักดี//รายงาน