รองอธิบดีกรมเจ้าท่า จัดประชุมผู้ประกอบการเดินเรือขนส่งสินค้าทางน้ำ สั่งคุมเข้มผู้บังคับเรือโต่ง และงดเดินเรือลากจูงผ่านเจ้าพระยา – ป่าสัก ช่วงกลางคืน (ชั่วคราว) บริเวณช่วงสามแยกวัดพนัญเชิงฯ เพื่อป้องกันอันตรายช่วงน้ำหลาก

 รองอธิบดีกรมเจ้าท่า จัดประชุมผู้ประกอบการเดินเรือขนส่งสินค้าทางน้ำ สั่งคุมเข้มผู้บังคับเรือโต่ง และงดเดินเรือลากจูงผ่านเจ้าพระยา – ป่าสัก ช่วงกลางคืน (ชั่วคราว) บริเวณช่วงสามแยกวัดพนัญเชิงฯ เพื่อป้องกันอันตรายช่วงน้ำหลาก 

วันนี้ (30 ส.ค.65) ที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา  จัดการประชุมร่วมระหว่างเจ้าท่าฯ และสมาคมผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางน้ำ เพื่อเพิ่มมาตรการความปลอดภัยในการเดินเรือช่วงน้ำหลาก บริเวณลำน้ำเจ้าพระยา ช่วงสามแยกวัดพนัญเชิงฯ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ไปถึง จ.อ่างทอง และลำน้ำป่าสัก  ช่วงสามแยกวัดพนัญเชิงฯ ไปถึง อ.นครหลวง โดยมี นายสมพงษ์ จิรศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า นายพีรธร นาคสุข ผอ.เจ้าท่าภูมิภาคสาขาพระนครศรีอยุธยา น.ท.รัชตะ ผกาฟุ้ง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 2 (อยุธยาฯ) พร้อมนายกสมาคมผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางน้ำ เข้าร่วมประชุม เพื่อกำหนดแนวทางป้องกันในระยะสั้น  

นายสมพงษ์ จิรศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า เพื่อให้การเดินเรือปลอดภัยมากที่สุด ต้องมีการนำผู้ขับเรือโยง หรือเรือโต่ง มาให้ความรู้ในการเดินเรือช่วงน้ำหลาก เพื่อทราบเส้นทาง และจุดอันตราย รวมถึงวิธีการขับเรือที่ต้องฝ่าเข้าจุดเสี่ยงควรทำอย่างไร  และจากการตรวจสอบอุบัติเหตุในแต่ละครั้งที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้  จึงต้องกำหนดมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว

นายวรเทพ สุวจนกร นายกสมาคมผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางน้ำ เปิดเผยว่า  สมาคมฯ แจ้งให้ชาวเรือทราบถึงอันตรายในการเดินเรือช่วงน้ำหลากตั้งแต่มีการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนป่าสักฯ ที่ 500 ลบ.ม./วินาที แล้ว เพราะน้ำในลำน้ำจะสูงและจุดอันตรายคือสามแยกวัดพนัญเชิงฯ และได้กำหนดให้มีการพ่วงเรือแค่ 3 ลำต่อพ่วงเท่านั้น พร้อมให้ผู้ปฏิบัติงานในเรือต้องสวมเสื้อชูชีพทุกคน เพราะชาวเรือจะทราบดีว่าช่วงน้ำหลากคือช่วงที่เดินเรือยากและมักจะเกิดอุบัติเหตุ  รวมถึงให้มีการงดเดินเรือเวลากลางคืน (ชั่วคราว) ช่วงน้ำหลาก เพราะคนเรือมองไม่เห็นว่า จุดใดอันตราย และหากฝืนเดินเรืออาจจะเกิดอันตรายได้

นอกจากนี้  ยังให้ทางสมาคมฯ จัดตารางเรือที่จะเข้าพื้นที่เสี่ยง แจ้งให้เจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา ทราบล่วงหน้า 24 ชั่วโมง เพื่อใช้ตรวจสอบ และจะได้มอบให้จัดเรือตรวจการณ์เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง อีกทางหนึ่ง

กัญญ์พรภัสร์ เอี่ยมมีชัย/ผู้สื่อข่าวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา/รายงาน