กกท. ร่วมกับ จ.ชลบุรี แถลงข่าวและลงนามสัญญาการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 40 “ฉลามเยาวชลเกมส์” และการแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 7 “ข้าวหลามเกมส์”

 กกท. ร่วมกับ จ.ชลบุรี แถลงข่าวและลงนามสัญญาการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 40 “ฉลามเยาวชลเกมส์” และการแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 7 “ข้าวหลามเกมส์” 

ดร. ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พร้อมด้วย นายอำนาจ  เจริญศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธีแถลงข่าวและลงนามสัญญาการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 40 “ฉลามเยาวชลเกมส์” และการแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 7 “ข้าวหลามเกมส์” โดยมี นายสุรศักดิ์ เกิดจันทึก รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา, นายสนธยา คุณปลื้ม  นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดชลบุรี , นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี และผู้บริหาร กกท. ร่วมพิธี ณ ห้องประชุม Vela Dee โรงแรม ณ เวลา จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา

ดร. ก้องศักด  ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า ตามที่ คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย มีมติให้จังหวัดชลบบุรีได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 40 และกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 7 นั้น การกีฬาแห่งประเทศไทย เชื่อมั่นว่าจังหวัดชลบุรี มีศักยภาพในการจัดการแข่งขันให้ประสบความสำเร็จ และบรรลุเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ได้เป็นอย่างดี โดยกำหนดชนิดกีฬาที่จะจัดการแข่งขัน เบื้องต้น 45 ชนิดกีฬา และกีฬาอาวุโสแห่งชาติ จำนวน 15 ชนิดกีฬา และเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบการกีฬาแห่งประเทศไทย จึงได้กำหนดให้จังหวัดเจ้าภาพลงนามสัญญาการเป็นเจ้าภาพและวางเงินค้ำประกันการเป็นเจ้าภาพ จำนวน 1 ล้านบาท ในวันนี้ ทั้งนี้ กกท. ได้กำหนดการคัดเลือกนักกีฬาตัวแทนระดับภาค 5 ภาค ในช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2567 เพื่อคัดเลือกนักกีฬาจากทั่วประเทศเข้าแข่งขันในระดับชาติต่อไป

นายอำนาจ  เจริญศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า จังหวัดชลบุรี ต้องขอขอบพระคุณการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่พิจารณา ให้จังหวัดชลบุรีเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 40 ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน 2568 “ฉลามเยาวชลเกมส์”,  การแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 20-26 เมษายน 2568 “ข้าวหลามเกมส์” ซึ่งจังหวัดชลบุรีเคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมาแล้ว จำนวน 2 ครั้ง คือ ในครั้งที่ 8 เมื่อปี พ.ศ. 2518 และครั้งที่ 39 เมื่อปี พ.ศ. 2539 โดยทั้งสองรายการถือเป็นการจัดการแข่งขันครั้งแรกของจังหวัดชลบุรีในรอบ 40 ปี สำหรับภาพรวมของการเตรียมการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เบื้องต้นจังหวัดชลบุรีโดยผู้ว่าราชการจังหวัด นายธวัชชัย ศรีทอง ได้จัดประชุมเตรียมการเป็นเจ้าภาพ ทั้งในภาคส่วนราชการ และภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี นายวิทยา คุณปลื้ม นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดชลบุรี ได้ร่วมมือกันขับเคลื่อน โดยมีการแบ่งศูนย์การแข่งขันออกตามชนิดกีฬาและตามสถานที่พักนักกีฬาเป็น 3 ศูนย์การแข่งขัน ดังนี้ 1. ศูนย์การแข่งขันอำเภอเมืองชลบุรี, 2. ศูนย์การแข่งขันอำเภอศรีราชา และ 3. ศูนย์การแข่งขันอำเภอบางละมุง/สัตหีบ และได้มีการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เช่น สนามแข่งขัน สถานที่พักนักกีฬา การแพทย์และพยาบาล การรักษาความปลอดภัยและการจราจร การปรับปรุงภูมิทัศน์ พิธีเปิด – ปิดการแข่งขันฯ รวมทั้งการประชาสัมพันธ์การแข่งขันให้บุคคลทั่วไป ได้รับทราบอย่างแพร่หลาย เพื่อร่วมชม ร่วมเชียร์ ตลอดจนเรื่องของการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต่อไป 

ทั้งนี้จังหวัดชลบุรี มีความมั่นใจและเชื่อมั่นจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับชาติมาแล้ว ตลอดจนความร่วมมือของทุกภาคส่วนภายในจังหวัดชลบุรี รวมทั้ง ความเป็นเมืองชล คนกีฬา และจังหวัด 1 ใน 16 ของเมืองกีฬา จังหวัดชลบุรีพร้อมที่จะต้อนรับคณะผู้บริหารของการกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬาจังหวัด คณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่จาก 76 จังหวัด รวมทั้งพี่น้องสื่อมวลชน และผู้เกี่ยวข้องต่างๆ ด้วยความยินดี 

นายสุรศักดิ์  เกิดจันทึก รองผู้ว่าการ กกท.ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา กล่าวว่า กกท. จะสนับสนุนงบประมาณประจำปีและงบประมาณจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ  เพื่อใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 40 “ฉลามเยาวชลเกมส์” และกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 7 “ข้าวหลามเกมส์” ประกอบด้วย เงินสนับสนุนเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ระดับชาติ 56 ล้านบาท, สนับสนุนเจ้าภาพจักการแข่งขัน ระดับภาค 5 ภาค ๆ ละ 7 ล้านบาท รวม 35 ล้านบาท, สนับสนุนค่าเดินทางสมาคม ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ กกท. ผู้แทนสมาคม และผู้ตัดสิน ระดับภาค/ระดับชาติ รวมทั้ง สนับสนุนการประชุมและสำรวจสนามแข่งขันและฝึกซ้อมฯ, ประชุมจับสลากแบ่งสายการแข่งขัน และประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันฯ 

นายสนธยา  คุณปลื้ม นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดชลบุรี ในฐานะฝ่ายเทคนิคกีฬา มีภารกิจรับผิดชอบจัดการแข่งขันชนิดกีฬาต่างๆ ในการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 40 “ฉลามเยาวชลเกมส์” และการแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 7 “ข้าวหลามเกมส์” ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามมาตรฐานของการกีฬาแห่งประเทศไทย ทั้งในส่วนของการจัดการแข่งขันฯ และสนามแข่งขันฯ โดยกำหนดชนิดกีฬาที่จะจัดการแข่งขันในกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 40 “ฉลามเยาวชลเกมส์” ทั้งกีฬาบังคับ/กีฬาสากล/กีฬาอนุรักษ์ และกีฬาสาธิต จำนวนประมาณ 40 - 45 ชนิดกีฬา และการแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 7 “ข้าวหลามเกมส์” จำนวนประมาณ 15 ชนิดกีฬา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจความพร้อมของสนามกีฬาแต่ละชนิดกีฬา ที่จะใช้รองรับการจัดการแข่งขันกีฬาดังกล่าว โดยมีความมั่นใจว่าเมื่อถึงวันที่จัดการแข่งขันสนามแข่งขันแต่ละชนิดกีฬาจะมีความพร้อมและได้มาตรฐานของการกีฬาแห่งประเทศไทย ทุกแห่ง

นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ในฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ มีความพร้อมที่จะให้การสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นได้มีการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจัดพิธีแถลงข่าว และลงนามสัญญาในครั้งนี้ร่วมกับคณะกรรมการกีฬาจังหวัดชลบุรี และสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดชลบุรี นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมการสนับสนุนในส่วนของการจัดการแข่งขันฯ อาทิ การจัดพิธีเปิด-ปิดการแข่งขันฯ การปรับปรุงซ่อมแซมสนามแข่งขันฯ การปรับปรุงภูมิทัศน์ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ การจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์การแข่งขันฯ เป็นต้น โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เคยมีประสบการณ์ และให้การสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 39  เมื่อปี พ.ศ. 2553 มาแล้ว ดังนั้น ในครั้งนี้ เรื่องที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี สามารถเข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนได้ มีความพร้อมและยินดีเพื่อให้การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 40 “ฉลามเยาวชลเกมส์” และการแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 7 “ข้าวหลามเกมส์” สำเร็จเรียบร้อยอย่างยิ่งใหญ่ สมเกียรติชาวจังหวัดชลบุรี

นายวุฒิชัย  ชัยจิตย์ ผู้อำนวยการกองแข่งขันกีฬาเป็นเลิศ กล่าวว่า หลังจากการลงนามสัญญาการเป็นเจ้าภาพแล้ว จังหวัดชลบุรีต้องดำเนินการ ดังนี้ 1. ประกาศชนิดกีฬา ต้องประกาศไม่น้อยกว่า 9 เดือน ก่อนการแข่งขัน โดยก่อนการประกาศจังหวัดเจ้าภาพและ กกท. จะต้องหารือร่วมกันเพื่อกำหนดประกาศชนิดกีฬา, 2. การแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันและคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 40 กีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 7 ต้องดำเนินการภายใน 6 เดือน นับจากการลงนามสัญญา ซึ่งลงนามโดยประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย, 3. ในส่วนจังหวัดทุกจังหวัด โดย กกท. ภาค 5 ภาค ต้องจัดการแข่งขันคัดเลือกนักกีฬาระดับภาคให้แล้วเสร็จก่อนพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ไม่น้อยกว่า 90 วัน โดยให้แต่ละภาคคัดเลือกจังหวัดเจ้าภาพระดับภาค 5 ภาค ในด้านสิทธิประโยชน์กลาง กกท. ได้จัดทำระบบสิทธิประโยชน์กลางเพื่อใช้ในการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ โดยผู้ให้การสนับสนุนจะได้รับการสนับสนุน เป็นระยะเวลา 4 ปี ซึ่ง กกท. จะสนับสนุนระบบสิทธิประโยชน์ เป็นเงิน 6,000,000 บาท (หกล้านบาทถ้วน) และผลิตภัณฑ์บริการ (VIK) นอกจากนั้น กกท. ยังจัดการแข่งขันภายใต้ BCG Model โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้กำหนดนโยบายโมเดลเศรฐกิจสุ่การพัฒนาที่ยั่งยืน (Bio – Circular -Green Economy : BCG Model) ซึ่งประกอบด้วย เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว มาเป็นแนวทางในการดำเนินโครงการ “การท่องเที่ยวและกีฬาสีขาว” เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬาไทย และสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งเป้าหมายหลักของโครงการ คือ สะดวก ปลอดภัย เป็นธรรม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่เชื่อมโยงไปสู่โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน อีกด้วย

จากนั้นเป็นพิธีลงนามสัญญาการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 40 “ฉลามเยาวชลเกมส์” และกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 7 “ข้าวหลามเกมส์” ระหว่างการกีฬาแห่งประเทศไทย และจังหวัดชลบุรี ซึ่งการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 40 “ฉลามเยาวชลเกมส์” มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 มีนาคม - 3 เมษายน พ.ศ. 2568 และการแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 7 “ข้าวหลามเกมส์” มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 - 26  เมษายน พ.ศ. 2568

โฆษก กกท./ 31 มี.ค. 2567