คณะศิษยานุศิษย์หลวงพ่อโอภาสี ( สุดทน ) รวมตัวเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถอดถอนและตรวจสอบพระสังฆาธิการที่มีอาจารที่ไม่เหมาะสม ณ รัฐสภาและสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ
คณะศิษยานุศิษย์หลวงพ่อโอภาสี ( สุดทน ) รวมตัวเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถอดถอนและตรวจสอบพระสังฆาธิการที่มีอาจารที่ไม่เหมาะสม ณ รัฐสภาและสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ
เมื่อเวลา 09:30 น.วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2567 นายนิภัทร์ บุณบรรเทิง พร้อมด้วยคณะศิษยานุศิษย์หลวงพ่อโอภาสี ได้รวมตัวและเดินทางไปยังรัฐสภา เลขที่ 1111 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เพื่อยื่นหนังสือต่อนางเอมอร ศรีกงพาน สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรมศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา พร้อมกันนี้ยังได้เข้ายื่นหนังสือถึง นายวีระพล จิตสัมฤทธิ์ สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมคนที่ 1 สภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ขอให้พิจารณาแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อโอภาสีและขอให้ดำเนินการถอดถอนพระสังฆาธิการที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับสมณวิสัย
สืบเนื่องจากพระครูสุทธิญาโนภาส อดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อโอภาสีได้ถึงแก่มรณภาพลงโดยมีการแต่งตั้งพระครูโอภาสวัชรานุกูล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสเป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อโอภาสี แต่ที่ผ่านมารักษาการเจ้าอาวาสมีพฤติกรรมบางประการที่ไม่เหมาะสม ไม่สอดคล้องตามพระธรรมวินัยจนเกิดวิกฤตศรัทธาจากชาวบ้านส่วนหนึ่งซึ่งคณะศิษย์ได้รวบรวมรายชื่อประชาชนกว่า 1,000 คนยื่นต่อสำนักงานเจ้าคณะกรุงเทพมหานครเพื่อแจ้งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้รักษาการเจ้าอาวาสและต่อมาได้มีการเผยแพร่ป้ายประชาสัมพันธ์พิธีมอบตราตั้งให้พระครูโอภาสวัชรานุกูลดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อโอภาสีโดยที่ไม่ได้มีการประสานชี้แจงผลการพิจารณาตามหนังสือดังกล่าว และไม่ได้รับฟังความคิดเห็นจากคฤหัสน์ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงวัดอย่างโปร่งใส ต่อมาสื่อมวลชนได้รายงานข่าวว่าคณะกรรมการมหาเถระสมาคมเจ้าคณะกรุงเทพฯได้เลื่อนการแต่งตั้งพระครูโอภาสวัชรานุกูล เป็นเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อโอภาสี ออกไปก่อนจนกว่าจะพิสูจน์ความจริงในเรื่องที่ชาวบ้านร้องเรียนมาได้ อย่างไรก็ตาม ก็ยังพบว่าปัจจุบันยังมีการเผยแพร่บัญชีรายชื่อแต่งตั้งเป็นพระสังฆาธิการกรุงเทพมหานครประจำปี 2567 ระดับเจ้าอาวาสที่ปรากฏชื่อพระครูโอภาสวัชรานุกูล เป็นเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อโอภาสี ผ่าน Facebook สำนักงานเจ้าคณะกรุงเทพฯ ดังนั้นจึงขอความอนุเคราะห์ให้คณะกรรมาธิการฯพิจารณาถึงเหตุผลการพิจารณาแต่งตั้งพระครูโอภาสวัชรานุกูลเป็นเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อโอภาสีครั้งนี้ ซึ่งไม่เป็นไปตามกฎมหาเถรสมาคมว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ กรณีเจ้าอาวาสต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้ทรงเกียรติคุณ เป็นที่เคารพนับถือของบรรพชิตและคฤหัสถ์ในถิ่นนั้น รวมถึงทวงถามความคืบหน้าในการดำเนินการพิจารณาหนังสือเรื่องการพิจารณาแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งพระสังฆาธิการเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อโอภาสีว่ามีขั้นตอนอย่างไร และมีการแจ้งผลให้ทราบด้วยวิธีใด และสำนักงานเจ้าคณะกรุงเทพฯ จะมีการยกเลิกและแก้ไขบัญชีรายชื่อที่มีการเผยแพร่อยู่ขณะนี้หรือไม่ซึ่งหากไม่ยกเลิกและแก้ไขบัญชีดังกล่าวจะมีผลให้พระครูโอภาสวัชรานุกูลยังคงดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสหลวงพ่อโอภาสีตามบัญชีวันที่ 13 ธันวาคม 2567 อยู่หรือไม่
โดย คณะ กมธ.การศาสนาฯ หลังจากรับหนังสือ ก็ยินดีที่จะรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวไปพิจารณาและ ตรวจสอบข้อเท็จจริง และยืนยันว่าจะไม่นิ่งนอนใจ หลังจากนี้ ตนจะมอบหมายให้คณะกรรมาธิการฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบและตรวจสอบข้อมูลต่างๆ เพื่อทราบปัญหาและข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม พี่น้องประชาชนต้องช่วยกันทำนุบำรุงด้านศาสนาให้มีความโปร่งใส มีคุณธรรม จริยธรรมและพึงปฏิบัติในสิ่งที่ดีงามต่อไป
หลังจากนั้น เวลา 14:00 น. นายนิภัทร์ บุณบรรเทิง พร้อมด้วยคณะศิษยานุศิษย์หลวงพ่อโอภาสี ได้เดินทางต่อมายัง สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เลขที่ 25/25 อาคารหลวงพ่อวัดปากน้ำ ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เพื่อยื่นหนังสือต่อนายธีรวุฒิ วรโคตร ( ผู้แทนรับมอบ ) ในเรื่องขอให้พิจารณาแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อโอภาสีและขอให้ดำเนินการถอดถอนพระสังฆาธิการที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับสมณวิสัย พร้อมกับมีข้อกังขาให้ช่วยตรวจสอบถึงเรื่องการเงินของวัด, การแต่งตั้งคณะกรรมการวัด รวมถึงประเด็นในเรื่องที่มีสีกาคนหนึ่ง ถือกุญแจและเปิดตู้รับบริจาคของวัดได้ ซึ่งไม่มีใครรู้จักสีกาคนนี้มาก่อน รวมถึงเวลาออกบิณฑบาตร ก็ยังมีสีการ่วมออกบิณฑบาตรอีกด้วย ซึ่งข้อกังขาเหล่านี้ทำให้เหล่าศิษยานุศิษย์หลวงพ่อโอภาสี ไม่สบายใจและเกรงว่าชื่อเสียงของวัดหลวงพ่อโอภาสี จะทำให้ญาติโยมเสื่อมศรัทธาจากหลายกรณีดังกล่าว จึงได้รวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือถอดถอนและตรวจสอบพระครูโอภาสวัชรานุกูล ในครั้งนี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น