"สว.ชีวะภาพ" สั่งลุยปราบเขมรตัดไม้เถื่อนชายแดน ชี้คดีพุ่งนับพัน! พบทุ่นระเบิด-กองกำลังติดอาวุธขวาง จนท.

 "สว.ชีวะภาพ" สั่งลุยปราบเขมรตัดไม้เถื่อนชายแดน ชี้คดีพุ่งนับพัน! พบทุ่นระเบิด-กองกำลังติดอาวุธขวาง จนท.



กมธ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ช็อก! ตัวเลขทำลายป่าพุ่งไม่หยุด ชายแดนไทย-กัมพูชาอ่วมสุด กรมป่าไม้ชี้มีนายทุนต่างชาติบงการ "สว.ชีวะภาพ" จ่อลงพื้นที่ปราบเขมรตัดไม้พะยูง-ไม้มะค่า นิสัยแสบแอบวางทุ่นระเบิด



นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา เป็นประธานการประชุมพิจารณาศึกษาเกี่ยวกับสถานการณ์การบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติบริเวณแนวตะเข็บชายแดนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา



โดยมีผู้แทนจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช , ผู้แทนจากกรมป่าไม้เข้าให้ข้อมูลสถานการณ์การบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่รับผิดชอบตามแนวตะเข็บชายแดนไทย-กัมพูชา


ผู้แทนจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ระบุว่า ภาพรวมสถานการณ์การกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ ตั้งแต่ปี 2554 – 2568 จังหวัดอุบลราชธานี: พบการกระทำผิดรวม 3,172 คดี โดยเป็นคดีทำไม้ 2,318 คดี, บุกรุกพื้นที่ 512 คดี, เกี่ยวกับสัตว์ป่า 338 คดี, และเกี่ยวกับของป่า 4 คดี



จังหวัดศรีสะเกษ: มีคดีรวม 2,515 คดี เป็นคดีทำไม้ 2,192 คดี, บุกรุกพื้นที่ 179 คดี, เกี่ยวกับสัตว์ป่า 142 คดี, และเกี่ยวกับของป่า 2 คดี


จังหวัดสุรินทร์: มีคดีรวม 1,319 คดี โดยเป็นคดีทำไม้ 1,120 คดี, เกี่ยวกับสัตว์ป่า 132 คดี, บุกรุกพื้นที่ 58 คดี, และเกี่ยวกับของป่า 9 คดี


จังหวัดบุรีรัมย์: มีคดีรวม 551 คดี เป็นคดีทำไม้ 403 คดี, เกี่ยวกับสัตว์ป่า 95 คดี, บุกรุกพื้นที่ 52 คดี, และเกี่ยวกับของป่า 1 คดี


ส่วนปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานพบว่ามีชาวกัมพูชาบุกรุกแผ้วถางปลูกไม้ผล ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ติดแนวชายแดน โดยอ้างว่าเป็นพื้นที่ของตนเอง นอกจากนี้ยังพบชาวกัมพูชาลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดนเพื่อเข้ามาตัดไม้พะยูงและไม้ประดู่ โดยมีคนไทยสนับสนุนชี้ตำแหน่งของไม้ให้ชาวกัมพูชา อีกทั้งเจ้าหน้าที่ต้องพบอุปสรรคในการปฏิบัติงาน เช่น ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน กองกำลังติดอาวุธของกัมพูชา และช่องทางธรรมชาติที่เข้าออกได้หลายช่องทาง


ขณะเดียวกันยังพบการค้าสัตว์ป่าตามแนวชายแดน โดยแม่ค้าชาวลาวและกัมพูชาจัดหาสัตว์ป่าให้คนไทยและลักลอบนำข้ามมายังฝั่งไทย



ด้านผู้แทนของกรมป่าไม้ ได้เปิดเผยสถิติคดีการกระทำผิดกฎหมายป่าไม้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึง 31 พฤษภาคม 2568 พบว่า จังหวัดที่มีพื้นที่บุกรุกและปริมาณไม้ของกลางมากที่สุด 3 อันดับแรกได้แก่ จังหวัดจันทบุรี: 3,691.78 ไร่ (37 คดี) จังหวัดฉะเชิงเทรา: 2,459.44 ไร่ (17 คดี) และจังหวัดสระแก้ว: 3,784.68 ไร่ (40 คดี)


ทั้งนี้กรมป่าไม้ได้เน้นย้ำถึงสถานการณ์การบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะการบุกรุกเพื่อใช้ประโยชน์จากนายทุนทั้งในและนอกพื้นที่ รวมถึงการนำที่ดินที่ได้รับการจัดสรรไปซื้อขายเปลี่ยนมือให้นายทุนเข้าครอบครอง ปัจจุบันมีกลุ่มนายทุนต่างชาติเข้ามาครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐ ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมายและสร้างความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ


นายชีวะภาพ ได้กล่าวกำชับเจ้าหน้าที่ให้หมั่นตรวจตรา เฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกัน และปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ในท้องที่รับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง หากพบการกระทำผิดให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และติดป้ายประกาศในพื้นที่ตรวจยึดอย่างชัดเจน โดยในสัปดาห์นี้ทางคณะกรรมาธิการจะลงพื้นที่ศึกษาดูงานเกี่ยวกับปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ตามแนวพื้นที่ตะเข็บชายแดนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดศรีสะเกษ ด้วยตัวเอง

ภูมิพัฒน์   จตุรภัทร/รายงาน

ท่านที่ปรึกษาสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย / บรรณาธิการข่าวกีฬาหนังสือพิมพ์อรัญนิวส์โพสต์

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ป.ป.ช.อยุธยา มอบรางวัลการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา กว่า 200 รางวัล

เมืองมุกดาหาร ผู้ว่าฯ การันตี ทุเรียน ออแกนิค สวนประสานรัก อ.ดงหลวง อร่อย ไม่เป็นรองใคร

ก.ธ.จ.อยุธยา พบว่า อบต.ไผ่พระ อำเภอบางไทร ใช้งบประมาณไม่คุ้มค่าและมีการแบ่งจัดซื้อจัดจ้าง